ปรับโครงสร้าง ก.วิทย์ เดินหน้ารับเอกชนลงทุน ศก.ดิจิทัล

           ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พลิกโฉมประเทศไทยสู่ก้าวใหม่ของการพัฒนา” ภายในงาน CEO Innovation Forum 2018 “Transforming Thailand Towards Science & Technology Frontier” ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ว่า  จากการการที่ประเทศไทย กำลังก้าวไปสู่การเป็น Thailand 4.0  พร้อมรับกับเทคโนโลยีโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

          ดังนั้นกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเน้น 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. การศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง เพื่อใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของประเทศ การเปลี่ยนจากการเป็นผู้ตาม กลายมาเป็นผู้นำ ด้วยศักยภาพของคนรุ่นใหม่ เช่น การต่อยอดด้วยนวัตกรรมจากภาคเกษตรไปสู่ ไบโอชีวภาพ 2. การนำเทคโนโลยี และนวัตกรรม มาปรับใช้กับยุคปัจจุบัน ซึ่งทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ ผลักดันให้ภาคธุรกิจพึ่งพาการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี 3.ความเอาจริงเอาจังในการที่จะสร้างนวัตกรรมเหล่านั้น ร่วมกันทำเพื่อพัฒนาประเทศ

        นอกจากนี้เศรษฐกิจยุคใหม่จะอาศัยเอกชนเป็นหลักในการก้าวข้ามไปสู่แพลตฟอร์มใหม่ในการแข่งขันค้าขาย เช่น  การเปลี่ยนรูปแบบวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมการผลิต การพัฒนาคนให้มีทักษะ มีศักยภาพทางการแข่งขัน การให้บริการของภาครัฐและภาคเอกชนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉม 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต  สิ่งเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากเอกชน และสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย ดังนั้นรัฐบาลจึงขอเชิญชวนให้ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาเข้ามาร่วมกันพัฒนาประเทศ        

         ขณะเดียวกัน จะต้องทำให้ประเทศเป็นพื้นที่ซึ่งมีความน่าสนใจในการลงทุน ซึ่งตนได้รับแจ้งจากกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้ นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของประเทศญี่ปุ่น จะมาเยือนประเทศไทย เพื่อเยี่ยมชมศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต(ICT) พร้อมกับ ร่วมหารือความร่วมมือในโครงการ Open Innovation Columbus โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตผู้ประกอบการกลุ่ม Start up ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นการขยายฐานการลงทุนของประเทศญี่ปุ่น ด้าน Start up ในภูมิภาคนี้        

        อย่างไรก็ตามกระทรวงวิทย์ฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกระทรวงที่สำคัญจะต้องปฏิรูปโครงสร้าง เพื่อรองรับกับบทบาทด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดังที่กล่าวมา พร้อมรับกับการเปลี่ยนผ่านที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้เป็นประเทศไทยเหมาะสำหรับการลงทุนในเศรษฐกิจดิจิทัล บุคลากรของกระทรวงจะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ปั้นพลเมือง กำลังคนรุ่นใหม่เพื่อที่จะยกระดับประเทศขึ้นมาช่วยในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลต่อไป