“สมคิด” ย้ำสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา“Strong together”

ทั้งนี้รัฐบาลไทยมีความยินดีอย่างยิ่งกับทางการกัมพูชาที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการพัฒนาประเทศ  เศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ด้วยความสามารถในการบริหารประเทศของผู้นำกัมพูชา “ท่านสมเด็จฮุน เซน”  ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าประเทศกัมพูชาจะเจริญรุ่งเรืองได้อย่างยั่งยืนสืบต่อไปในอนาคตข้างหน้า

             สำหรับประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น แต่นับจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยเข้ามาบริหารประเทศทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จีดีพีของไทยขยับจาก 0.8 มาเป็น 2.8 และในช่วง ไตรมาส 1 ปี 2559 เติบโตสูงถึง 3.2 แต่ความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยไม่ใช่อยู่ที่ตัวเลขจีดีพีแต่อยู่ความพยายามในการปฏิรูปประเทศ ให้มีรากฐานที่แข็งแรง ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตข้างหน้า

โดยประเทศไทยได้เริ่มปรับเปลี่ยนการบริหารประเทศ จากการพึ่งพาการส่งออกแต่เพียงอย่างเดียว  มาเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีการเติบโตอย่างสมดุลระหว่างการเติบโตภายในประเทศบวกกับการเติบโตจากการส่งออกควบคู่กันไป และในขณะเดียวกันรัฐบาลยังได้เร่งปฏิรูปด้านเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเข้มแข็งในเศรษฐกิจฐานราก โดยการกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้นในเมืองไทย  ในอนาคตทุกภาคส่วนจะต้องเข้าไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแน่นอน   ดังนั้นประเทศใดที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนในสิ่งเหล่านี้ จะขาดความสามารถในเชิงการแข่งขันและในอนาคตข้างหน้าการก้าวสู่ความยั่งยืนจะเป็นไปได้ยาก               

              นอกจากนี้อีกหนึ่งกุญแจสำคัญคืออาเซียน และภายในหัวใจอาเซียนก็คือ CLMVT (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย)  ถ้าหากประเทศใดในกลุ่ม CLMVT มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมีความสามัคคี และการวางยุทธศาสตร์ร่วมกันเพื่อให้เกิดการเติบโตที่สอดรับซึ่งกันและกันเมื่อนั้น CLMVT  จะเป็นดินแดนที่เป็นหัวใจของซัพพลายเชนที่ยิ่งใหญ่ของเอเชีย  ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการจัดงานการประชุมเป็นครั้งแรกระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของกลุ่มประเทศ CLMVT  เพื่อให้รัฐมนตรีแต่ละประเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสหารือร่วมกัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันในอนาคต และหาแนวทางเพื่อเชื่อมโยงประเทศในเชิงยุทธศาสตร์  สร้างความเกื้อกูลกันต่อกันในทุก ๆมิติ ไม่ว่าเรื่องของเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งเรื่องสังคมเพื่อก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของกลุ่มประเทศ CLMVT  ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาอนุภูมิภาคนี้ร่วมกัน   

               ดังนั้นในการเริ่มสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันของประเทศไทยและประเทศกัมพูชา จะสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกัน ซึ่งจะนำไปสู่การร่วมมือกันทางยุทธศาสตร์ในอนาคตข้างหน้า ทั้งนี้ตนเชื่อว่าวิถีทางนี้จะสร้างความพันธ์อันดีระหว่างไทย – กัมพูชาและมิตรประเทศใน CLMVT ร่วมกัน  เพื่อให้อนุภูมิภาคนี้จะสามารถเจริญเติบโตได้อย่างรุ่งเรืองถาวร สุขสมบูรณ์ร่วมกัน ไม่ทิ้งผู้หนึ่งผู้ใดไว้ข้างหลังอันนั้นเป็นความปรารถนาอันแรงกล้าของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย  โดยเน้นย้ำว่าไม่ว่าเราจะปฏิรูปอะไรก็ตาม ประเทศไทยจะต้องไม่ก้าวไปข้างหน้าแต่เพียงผู้เดียว สิ่งสำคัญก็คือว่าจะต้องก้าวไปพร้อม ๆกับประเทศเพื่อนบ้านของเรา ที่ได้มีคำจำกัดความว่า “Strong together” ให้เติบโตแข็งแรงร่วมกัน เราจะไม่ทิ้งผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ข้างหลัง เราก้าวไปข้างหน้า เพื่อให้เอเชียสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน และหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาจะเป็นความสัมพันธ์รุ่งเรืองถาวรและยั่งยืนต่อไป