“สมคิด”ปลุกกองทุนฟื้นฟูฯพี่เลี้ยงเกษตรกรไทย

ท่านประธานกรรมการบริหาร ท่านเลขาธิการ คณะผู้บริหารกองทุนฯ สมาชิกกองทุนฯ ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอบคุณที่ให้เกียรติเชิญผมมาในงานที่สำคัญอย่างนี้ ได้เห็นความสามัคคีของสมาชิกกองทุน ทุกท่านคือแนวหน้าในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร วันนี้ผมไม่ได้มาในฐานะรองนายกรัฐมนตรี แต่มาในฐานะประธานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สิ่งที่ผมพูดกับท่านมาจากความจริงใจ

เราตั้งกองทุนฟื้นฟูฯขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อ 15 ปีที่แล้ว แต่ที่ผ่านมากองทุนฟื้นฟูฯยังไม่สามารถบรรลุภารกิจนั้นได้เลย ทำอย่างไรจึงจะสร้างความเข้าใจในกลุ่มพี่น้องกองทุนฯ ทำยังไงให้เกิดการบูรณาการกันอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องกังวลว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร เนื่องจากกองทุนฯถูกตั้งขึ้นมาเพื่อพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศซึ่งก็คือเกษตรกรที่มีฐานะยากจน ดังนั้นเมื่อผมทราบว่ามีการจัดงานนี้ขึ้นมา ผมดีใจและมองว่าเป็นมิติใหม่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ จึงขอขอบคุณผู้จัดงานทุกท่าน

เกาหลีใต้ประเทศแห่งนวัตกรรม

                ผมเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ไปครั้งนี้ได้เห็นความก้าวหน้าและความเจริญของเกาหลีใต้รุดหน้าเร็วมาก โดยเฉพาะการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ผมเกิดความรู้สึกแปลก ๆในใจว่าทำไมเขาถึงสามารถก้าวไปได้ไกลมาก เมื่อ 15 ปีที่แล้วผมมีโอกาสไปในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เห็นความรุดหน้าในหลายเรื่องแต่ไปในครั้งนี้ สิ่งที่ผมเห็นคือเขากำลังพุ่งทะยาน กำลังขับเคลื่อนกลไกทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่สินค้าและบริการ แต่เขากำลังสร้างเครื่องยนต์ใหม่ที่เต็มไปด้วยความก้าวหน้าในเชิงวิทยาการและเทคโนโลยี มี 2 อย่างที่เขามีแต่เรายังไปไม่ถึงคือ 1.ไอทีเข้าถึงทุกหย่อมหญ้า เกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ รวมถึงความเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันขับเคลื่อนด้วยไอที 2.ทรัพยากรมนุษย์ คนเกาหลีใต้ยุคใหม่มีการศึกษาดี ภาษาอังกฤษคล่อง นัยน์ตามีไฟ มีความหวังในชีวิต มั่นใจกับตัวเองมาก ความรู้สึกที่ตามคือเมื่อไหร่เมืองไทยจะไปถึง เมื่อไหร่คนไทยจะหลุดพ้นจากความขัดแย้ง หลุดพ้นจากการมองสั้นๆ ไม่มองระยะยาว ไม่มองให้ครบวงจร การวางแผนระยะยาว ไม่ใช่ทำวันนี้แล้วเห็นผลพรุ่งนี้ แต่อาจเห็นผลในอีก 10 ปี หรือ 15 ปี  เพื่อให้ลูกหลานของเราเติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง ลำพังผมคนเดียวทำไม่ได้ ทุกฝ่ายต้องมาช่วยกัน ขับเคลื่อน สื่อสารให้เกิดความสามัคคีในบ้านเมือง ก้าวพ้นจากความขัดแย้งที่ไม่มีอะไรเป็นสาระ เอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง

 

มั่นใจจีดีพีประเทศไทยโตตามเป้า

                ปัจจุบันแม้เกาหลีใต้จะประสบความสำเร็จในด้านอุตสาหกรรม แต่ช่วงนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ก็มีปัญหาเหมือนกัน เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกวิกฤติหนักมาก ขนาดประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศยักษ์ใหญ่ส่งสินค้าไปขายทุกมุมโลก ยอดการส่งออกของประเทศจีนในเดือนกุมภาพันธ์ตกลงไปถึง 25% ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของจีน ถ้าสถานการณ์แบบนี้ยังคงอยู่ระยะยาว หมายความว่าการนำเข้าของจีนก็ต้องชะลอไปด้วย   ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆที่ส่งสินค้าไปขายในจีน รัฐบาลจีนประกาศชัดเจนว่าเขาจะไม่ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเขามั่นใจว่าสามารถสร้างอัตราการเติบโตได้ 6.5-7% โดยเขาจะหันกลับมาปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจแทน สินค้าอะไรที่ไม่ทันสมัย เช่นการผลิตรถยนต์โดยไม่รู้ว่าตลาดต้องการอะไร  ก็หันไปผลิตสินค้าที่เน้นนวัตกรรม เทคโนโลยี หมายความว่าอีก 3-5 ปีถ้าเขาประสบความสำเร็จเขาจะเข้มแข็งมาก

                เราต่างรู้กันว่าเกาหลีใต้เป็นประเทศผู้นำด้านการส่งออก มีการส่งออกเกิน 100% ของจีดีพี แต่ยอดการส่งออกในเดือนมกราคมตกไปถึง 18% เดือนกุมภาพันธ์ตกอีก 12% ตกมาต่อเนื่องประมาณปีเศษแล้ว จึงมีการตำหนิรัฐบาลว่าไม่สามารถนำพาประเทศให้พ้นจากปัญหาเศรษฐกิจได้ แต่จริงๆแล้วเหตุการณ์นี้เป็นเหมือนกันทั้งโลก อยู่ที่ว่าใครจะสามารถนำพาประเทศก้าวข้ามไปได้ ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบ แต่ยอดการส่งออกของเราตกน้อย เนื่องจากสินค้าส่งออกมีความหลากหลาย ล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ตัวเลขก็ทำให้สบายใจขึ้น คือเป็นบวก แต่ส่วนหนึ่งมาจากการส่งออกทองคำ เมื่อตัดการส่งออกทองคำออกไปก็ยังเป็นบวกนิดหน่อย ซึ่งดีขึ้นจากเดือนมกราคม ที่ตกลงไปประมาณ 8.9%         

นักข่าวเกาหลีใต้ถามผมว่าประเทศไทยจะสามารถยืนการเติบโตทางเศรษฐกิจเกิน 3% ได้ไหม ผมบอกว่าเรามั่นใจว่าเกิน 3% แต่เราไม่ถือว่าอันนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เรามองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้ แต่การเติบโตจะยั่งยืนได้ก็มีเพียงประการเดียวคือจะต้องเอาจริงเอาจังกับการปฏิรูป

 

ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่สมดุล

                โครงสร้างเศรษฐกิจของเมืองไทยยืนอยู่บนขาสองข้าง แต่ 30 ปีที่ผ่านมาเรายืนบนขาข้างขวามากเกินไป เราเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรม เน้นการลงทุนจากต่างประเทศ เน้นโครงสร้างพื้นฐานที่พึ่งพาอุตสาหกรรม จนกระทั่งเรากลายเป็นประเทศที่การส่งออกนำหน้า มันเป็นทางลัดที่เราเดินมาตลอด พอโลกมีปัญหา การส่งออกได้รับผลกระทบ จีดีพีตก ประเทศลำบาก เพราะเราพึ่งพาการส่งออกถึง 70% ของจีดีพี  แต่ในขณะเดียวกันมันเป็นโอกาสสำคัญทำให้เราคิดได้ว่า ถ้าขืนยืนอยู่บนขาข้างขวาอย่างเดียว ในขณะที่ขาข้างขวาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ขาข้างซ้ายที่มีเกษตรจำนวนมหาศาลกลับอ่อนแอลง จะไม่ให้อ่อนแอลงได้อย่างไร  เมื่อนับวันราคาโภคภัณฑ์จะลดลง เพราะราคาน้ำมันต่ำลง ถ้ายังเป็นแบบนี้อีก 2-3 ปี ราคาสินค้าเกษตรจะไม่มีทางกลับขึ้นมาได้เหมือนเดิม แล้วเรายังจะผลิตพืชเชิงเดี่ยวเพื่อรองรับความยากจน ยอมรับชะตากรรมแบบนี้ต่อไปหรือ จะให้รัฐบาลมาแบกภาระรับจำนำสินค้าทั่วประเทศ ถามว่ารัฐบาลจะเอาเงินจากไหนมารับจำนำ ถ้าเกษตรกรคิดแค่ว่าเพาะปลูกแล้วขายรัฐบาล รัฐบาลเอาเงินมาแบกซื้อไว้ กลายเป็นภาระขาดดุล ไม่มีเงินพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังเปิดช่องให้มีการทุจริตจากโครงการดังกล่าว

แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือสินค้าเกษตรจะไม่ได้รับการยกระดับพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่ม เป็นสินค้าปฐมภูมิ เมื่อเทียบกับสินค้าคนอื่นที่มี Creative เช่น เกาหลีใต้ทำสินค้าที่มีมูลค่าสูงมากจากไอทีและวิทยาศาสตร์ เป็นสินค้านวัตกรรมซึ่งมีความสามารถในการแข่งขันสูง มูลค่าสูงกว่าราคาสินค้าเกษตรอย่างเทียบกันไม่ได้ ฉะนั้นการที่เราจะมุ่งไปแบบนี้โดยไม่มีการพัฒนา ในยุคของเราอาจอยู่ได้ แต่อีกไม่นานเราจะอยู่ลำบาก คนรุ่นหลังจะเป็นอย่างไร นี่คือเหตุผลสำคัญว่าถ้าเราต้องการก้าวไปข้างหน้า การปฏิรูปภาคการเกษตรสำคัญอย่างยิ่ง

มีประชากรในภาคเกษตร 25-30 ล้านคน ใน 30 ล้านคนมีส่วนร่วมในการผลิตประมาณ 8% ของจีดีพี แค่ 8% ของผลผลิตทั้งหมดในประเทศ ลองคิดดูว่าคน 30 ล้านคนอยู่ในห้องเล็กๆที่แออัด เมื่อเทียบกับห้องใหญ่โตของประเทศ พูดง่ายๆว่าคุณสร้างได้ 100% แต่เป็นส่วนของเกษตรกรแค่ 8% แล้วความยากจนเหล่านี้จะหลุดพ้นได้อย่างไร เกษตรกรปลดหนี้ปีนี้ ปีหน้าก็เป็นหนี้ใหม่ เราอยากช่วยเกษตรหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ แต่ก็ต้องสร้างความเข้มแข็งขึ้นมาด้วย เป็นเกษตรกรสมัยใหม่ ไม่ใช่เน้นการแก้หนี้อย่างเดียว แต่ต้องเปลี่ยนเป็นเกษตรสไตล์ใหม่

 

อนุมัติ 3.5 หมื่นล้านปฏิรูปเกษตรกร

                “ผมเฟสไทม์คุยกับลูกชาย เขาโพสต์ว่าขณะนี้มีร้านขายอาหารในอเมริกาสร้างรายได้มหาศาล โดยการขายสินค้าอาหารจากทุกมุมโลก ปรากฏว่าสินค้าที่มีคนเข้าคิวซื้อคืออาหารจากประเทศไทย เช่น ทุเรียนกรอบ มะม่วงกรอบ บะหมี่ต้มยำ ราคาขึ้นมาเป็นทวีคูณ นี่คือสินค้าที่มาจากพืชผลการเกษตรของเรา ถามว่าทำไมคนไทยไม่ทำ ไม่ฉลาดหรือ คนไทยทำได้แต่ต้องเอาจริง

                สินค้าเกษตรของไทยมีเยอะมาก อาหารไทยก็โด่งดัง ทุกคนต้องการกิน ปัญหาคือว่าทำยังไงให้ต้นน้ำการเกษตรดีขึ้น ข้อแรกเลยพี่น้องเกษตรกรต้องมีที่ดินทำกิน ข้อ 2 ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมหันไปปลูกพืชหลากหลาย อย่าปลูกพืชเชิงเดี่ยวจนชีวิตทั้งชีวิตไปอยู่กับสินค้าตัวเดียว ข้อ 3 เกษตรกรต้องปลอดหนี้ คนมีหนี้คิดอะไรไม่ออก เมื่อแก้ปัญหาหนี้สินได้แล้วต้องทำให้เขาเข้าใจคำว่า Productivity หรือความสามารถในการผลิต หมายความว่าพื้นที่ต่อหนึ่งตารางเมตรผลผลิตสูงกว่าคนอื่น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าทางการผลิต  ยกตัวอย่างข้าว เรามีผลผลิตต่อไร่ต่ำสุดในอาเซียน จะแก้ยังไง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พยายามช่วยในสิ่งเหล่านี้ โดยการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพ ถ้าครัวเรือนเดียวไม่สามารถใช้เครื่องจักรได้ จะบริหารจัดการยังไงให้มีการรวมตัวกัน ร่วมกันทำเป็นแปลงใหญ่แล้วนำเครื่องจักรมาบริหารจัดการ

ล่าสุด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ออกมาตรการให้สินเชื่อตรงกับชุมชนการเกษตร ไม่ใช่ให้แค่คนเดียว ให้ชุมชนเลือกกันมา ชี้เลยว่าใครผลิตอะไร หาตลาดยังไง เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลให้งบปฏิรูปเกษตรกร 3.5 หมื่นล้านบาทผ่านกองทุนหมู่บ้านเพื่อสร้างเกษตรกรแห่งอนาคต ตอนนี้มีหลายกลุ่มเสนอโครงการมาแล้วเกือบ 5 หมื่นโครงการ ผ่านการตรวจสอบแล้ว 4.2 พันโครงการ เม็ดเงินเริ่มทยอยไปแล้ว เพื่อให้ชุมชนเกษตรตัดสินใจว่าจะสร้างอะไร คุณไม่มีแหล่งน้ำ ไปทำแหล่งน้ำไหม ให้หมู่บ้านชุมชนต่าง ๆเริ่มคิดโครงการของตัวเองขึ้นมา แทนที่ราชการจะเข้าไปครอบงำ ที่ผ่านมามีไหมไม่เคยมีเลย เราสามารถทำอย่างนี้ได้เพราะอะไร เพราะรัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ถ้ามาจากการเลือกตั้ง ให้พื้นที่นี้ ไม่ให้พื้นที่นั้น เจ๊งแน่นอน รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจึงเลือกเส้นทางที่ยาก แต่เป็นการสร้างเกษตรกรไปสู่ความเป็นเลิศ เราไม่ต้องการเห็นเกษตรกรเป็นเกษตรกรธรรมดา เราต้องการให้เขาสามารถเป็นคนค้าขายได้ ไม่ต้องผ่านคนกลาง

 

อีคอมเมิร์ซช่องทางเกษตรยุคใหม่

                กระทรวงไอซีทีเพิ่งจะได้รับอนุมัติงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อลงอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศ  ต่อไปทุกพื้นที่สามารถค้าขายผ่านอีคอมเมิร์ซติดต่อกับทั่วโลกได้เลย เรามีความสามารถทำได้ แต่เราไม่เคยทำจริงจัง ไม่เคยร่วมมือกัน รัฐบาลนี้จึงต้องดำเนินการ

หนึ่งในโครงการของ ธ.ก.ส. คือ 1 SME เกษตร 1 ตำบล ผมให้ ธ.ก.ส. แปลงเป็น 1 หมู่บ้าน เอาเกษตรกรซึ่งมีความสามารถให้เป็นผู้นำในหมู่บ้านเชื่อมโยงสินค้ากับเพื่อนบ้าน แปรรูปสินค้าให้มีคุณภาพแล้วประสานงานกับเครือข่ายหาตลาด เหมือนกับที่เอกชนเข้าไปรับซื้อสินค้ากล้วยหอมตามหมู่บ้าน ขายใน 7-11 ลูกละ 8 บาท ผมไปเจอมะพร้าวที่กรุงโซล ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตลูกละ   70 บาท ถ้าสินค้าดีรับรองมีลูกค้าไปอุดหนุนถึงหมู่บ้าน ทำให้คนไปท่องเที่ยวมากขึ้น เกิดผลพวงมหาศาลทีเดียว เรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละ 30 ล้านคนจะปล่อยให้เขาเข้ามาอาบแดดอย่างเดียวหรือ ทำอย่างไรให้เขาเข้าไปเที่ยวในหมู่บ้านของท่าน อำเภอของท่าน จังหวัดของท่าน มันจะไปได้ดีถ้าเรามีสินค้าที่ดี พลิกจากเกษตรกรธรรมดาเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก หมู่บ้านอื่นเห็นก็จะหันมาเลียนแบบ แต่อย่าเลียนแบบทั้งหมดจนสินค้าจะล้นตลาด แต่ละหมู่บ้าน แต่ละตำบลมีจุดแข็งของตัวเอง สร้างสินค้า สร้างแบรนด์ แล้วนำไปขาย สิ่งเหล่านี้ทำได้ไม่ยากเลย ถ้ากองทุนฟื้นฟูฯแข็งแรง แต่ที่ผ่านมาเราไม่เอาจริงเอาจัง ทำให้เกษตรกรไม่เข้มแข็ง คนเป็นหนี้จะเข้มแข็งอย่างไร

30 ปีที่แล้วเกาหลีใต้พัฒนาเท่ากับไทย ก่อนหน้านั้นเขามาดูงานประเทศไทย 50 ปีให้หลังผมต้องไปดูงานที่เกาหลีใต้ อายเขาไหม แต่ว่าถึงอายก็ต้องทำ เพื่อดูว่าเขาพัฒนาไปถึงไหน ลีกวนยูพูดไว้คำหนึ่งว่าคนที่จะบริหารประเทศไม่ใช่บริหารตามกระแส ถ้าบริหารตามกระแสใครก็เป็นรัฐมนตรีได้ การบริหารต้องให้คนส่วนรวมได้ประโยชน์ ทำให้เขาไม่จมปลักอยู่กับหนี้สิน แต่มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงจะเดินไปข้างหน้าได้ ถ้าคนไทยแข็งแรงก็จะมีแรงมาสร้างชาติ

 

อย่ากลัวปลาใหญ่กินปลาเล็ก

                ผมไปเกาหลีใต้ครั้งนี้เห็นโครงการประชารัฐของเขา ทำคล้ายกับเราเลย แต่ของเขาเน้นเน้นเรื่องไอที  เขามีการตั้ง Creativity Center หรือว่าศูนย์กลางสินค้านวัตกรรมตามจุดต่างๆ 18 จุด ให้เด็กรุ่นใหม่ที่เรียนวิทยาศาสตร์มาใช้บริการ มีเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์ต่อการคิดค้นให้บริการ รัฐบาลบอกว่ายักษ์ใหญ่รายไหนสนใจเข้ามาช่วยได้เลย เพื่อผลักดันธุรกิจของเด็กรุ่นใหม่ แต่ให้สิทธิการตัดสินใจกับเด็กรุ่นใหม่ว่าต้องการเงินทุนสนับสนุนไหม ถ้าต้องการรายใหญ่เข้ามาถือหุ้นขอให้บอก ถ้าไม่ให้ถือไม่เป็นไร จุดที่ผมไปดูงานบริษัทยักษ์ใหญ่ ซี.เอส.กรุ๊ป เข้าไปให้การสนับสนุน ผมเห็นเด็กอายุ 27-28 ปี ทำเครื่องมือชิ้นเล็กๆเท่านิ้วก้อย จิ้มเข้าไปในผลไม้ รู้เลยว่าผลไม้นี้กรอบหรือไม่กรอบ หวานหรือไม่หวาน ผมถามเด็กต่อหน้า ซี.เอส.กรุ๊ปว่า กลัวไหมถ้าให้รายใหญ่ร่วมหุ้นจะถูกปลาใหญ่กินปลาเล็ก เด็กหัวเราะบอกว่า ผมก็ได้ เขาก็ได้ และมันก็เป็นสิทธิของผมที่จะให้เขาถือหุ้นหรือไม่ แต่ถ้าผมให้เขาร่วม ผมสามารถสร้างธุรกิจขึ้นมาได้  บริษัทใหญ่ก็ได้ประโยชน์จากไอเดียคนรุ่นใหม่ ไม่ต้องคิดเอง อนาคตของเขาขึ้นอยู่กับเด็กเหล่านี้ แล้วประเทศแบบนี้จะไม่เจริญได้อย่างไร

เราเองก็ต้องมาปลูกฝังกันใหม่ ต้องหัดไว้ใจกัน คนไทยด้วยกัน ถ้าไม่ช่วยกันใครจะช่วย เช่น ปตท.เริ่มนำสินค้าชุมชนไปลงตามปั้ม เป็นจุดเริ่มต้น การร่วมกันของทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญ อย่าไปมองว่าปลาใหญ่กินปลาเล็ก

ผมหวังว่ากองทุนฟื้นฟูฯที่ผมมีส่วนตั้งขึ้นมาจะเป็นกำลังสำคัญ เป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน เราต้องพยายามถ่ายทอดกระบวนการจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง ขอให้ไว้ใจ ผมอยากช่วยเกษตรกร แต่ต้องไปด้วยกัน ไปสู่จุดหมายด้วยกัน ก็หวังว่าจะได้รับการตอบสนองช่วยกันจากทุกหน่วยงานในแนวทางเดียวกัน