ปัจจัยรอบโลก ส่งให้ไทยเป็นแหล่งลงทุนใหม่

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ปีแห่งการลงทุน:เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส” ภายในงานสัมมนา “Thailand Investment Year What’s news” โดยกล่าวว่า ในประการที่สามสืบเนื่องคล้ายๆ กัน ปีนี้ เป็นปีที่ไทยจะเป็นประธานของอาเซียน มีการประชุมอาเซียนซัมมิท 2 ครั้ง การเป็นประธานในช่วงนี้เป็นช่วงที่เกิดการก่อตัวของเขตการค้าเสรี RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) กำลังใกล้จะบรรลุผล ในยามที่ Belt and Road ของจีนกำลังขยายสู่ทางใต้สู่อาเซียน ในยามที่ CPTPP ที่นำโดยญี่ปุ่น ประกาศตัวแล้ว และกำลังขยายการรับสมัครสมาชิกเพิ่มเติม ซึ่งไทยกำลังรอเข้าเป็นสมาชิกหลังการเลือกตั้ง ในขณะเดียวกันที่ อินเดีย ญี่ปุ่น และอเมริกากำลังโปรโมทแนวคิดอินโด-แปซิฟิก

 

ไม่ว่าจะมองไปทางไหน อาเซียนอยู่ตรงกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง CLMVT ที่มีการประชุม ACMEC ที่ผ่านมาที่ไทยเป็นประธานและเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เชื่อมโยงให้มีการประกาศยุทธศาสตร์ร่วมของทั้ง 5 ประเทศเป็นครั้งแรก การที่ประเทศไทยได้เป็นศูนย์ของ CLMVT ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ร่วม 5 ประเทศ สามารถเป็นประธานในการจัดประชุมอาเซียนสามารถร่วมมือกับมิตรประเทศทั้ง CLMVT และอาเซียน ในกาชูบทบาทของอาเซียนให้โลกได้ประจักษ์ ว่าอาเซียนกำลังเป็นข้อต่อที่สำคัญกับประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งในเชิงการเมืองและเศรษฐกิจ โดยเป็นทั้งตลาด,ซัพพลายเชนและแหล่งทรัพยากรมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่และถ้าหากมองในมุมของภูมิเศรษฐศาสตร์

 

ในยามที่ความตึงเครียดจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐทวีความรุนแรงและไม่มีท่าทีที่จะจบ การเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนและการผลิตย่อมจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ฐานนักลงทุนต่างประเทศในจีนกำลังคิดจะเคลื่อนย้าย ผู้ประกอบการเชื้อสายจีนในสหรัฐก็เริ่มที่จะไม่มั่นคง และมีความคิดย้ายฐานการผลิตบางส่วนมายังดินแดนที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดก็คือเอเชีย โดยเฉพาะอาเซียน เป็นเป้าหมายสำคัญ อุตสาหกรรมรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ รถมอเตอร์ไซต์ รถยนต์ ไอที อุปกรณ์ทางการแพทย์ ส่วนหนึ่งเริ่มทยอยมาสู่ไทยและเวียดนาม ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ที่ไทยกำลังปรับตัวให้ทันสมัย มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคง เป็นดินแดนปลอดภัย เชื่อว่าสิ่งดีๆ กำลังจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยอันใกล้นี้